ข้อควรรู้เกี่ยวกับ พรบ ภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง

พรบ ภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง เป็นกฎหมายใหม่ที่ใช้แทนกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดิน และกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ กฎหมายใหม่มีเป้าหมายเพื่อลดอุดมการณ์ทางสังคมและเพิ่มการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะจัดเก็บภาษีภายใต้การกำกับดูแลของอปท. ซึ่งหากมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจริง จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับ อปท. เพื่อนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นในด้านสังคมอื่น ๆ นอกจากนี้การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังสามารถลดการถือครองที่ดินเพื่อเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อีกด้วย

ทำไมจึงต้องนำพรบ ภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างมาใช้จัดเก็บแทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ ?

เนื่องจากพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 เป็นกฎหมายที่ออกมานานแล้ว ทำให้เกิดปัญหาในการจัดเก็บภาษีสรรพากรและภาษีบำรุงท้องที่และข้อจำกัดด้านฐานภาษี อัตราภาษี และการลดหย่อนภาษีที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบัน ทำให้ อปท. มีรายได้ไม่เพียงพอในการพัฒนาท้องถิ่น รัฐบาลจึงต้องจัดสรรงบประมาณเพื่ออุดหนุนเพิ่มเติม

  1. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน มูลค่าฐานรายปีหรือค่าเช่ารายปีในการประเมินภาษีจึงซ้ำซ้อนกับการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน การประเมินราคาประจำปีให้อยู่ในดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ในการกำหนดค่าเช่าที่พึงจะเช่าได้ในหนึ่งปี นอกจากนี้ ยังกำหนดอัตราภาษีในอัตราที่สูงมาก คือร้อยละ 12.5 ของค่าธรรมเนียมรายปีหรือคิดเป็นค่าเช่าครึ่งเดือน
  2. ภาษีบำรุงท้องที่ มี 2 แบบ คือ

ฐานภาษีไม่เป็นปัจจุบัน เนื่องจากพื้นที่ที่ใช้ในการประเมินภาษีในปี พ.ศ. 2521 – 2524 นั้นลดลงจากพื้นที่ที่ใช้ในการประเมินภาษีในปี พ.ศ. 2541 – 2554 และยังมีพื้นที่ที่ดินที่ใช้คำนวณภาษีลดลงมาก

อัตราภาษีถูกกำหนดตามมูลค่าที่ดินเฉลี่ยถึง 34 ระดับและถดถอย ที่ดินที่มีมูลค่าสูงจะถูกเก็บภาษีในอัตราภาษีเฉลี่ยที่ต่ำกว่าที่ดินที่มีมูลค่าต่ำ

ประโยชน์ของการจัดเก็บพรบ ภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง

  1. ลดความเหลื่อมล้ำผู้ที่มีทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงจะต้องเสียภาษีมากกว่าทรัพย์สินที่มีมูลค่าต่ำ จะทำให้เกิดความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
  2. เพิ่มประสิทธิภาพโดยลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ในการประเมินภาษี และสนับสนุนให้เจ้าของที่ดินใช้ที่ดินอย่างคุ้มค่า รวมทั้งลดปัญหาการกักตุนที่ดินเพื่อเก็งกำไร รวมทั้งส่งเสริมให้มีการกระจายการถือครองที่ดิน
  3. เพิ่มรายได้ อปท.มีรายได้เพียงพอที่จะนำไปใช้ในการลงทุนและให้บริการสาธารณะที่มีคุณภาพแก่ประชาชนในพื้นที่มากขึ้น
  4. ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานของ อปท. เพื่อให้การจัดเก็บภาษีทั่วถึงและเป็นธรรม รวมทั้งติดตามการใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของประชาชน

ผู้ที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีดังนี้

  1. เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
  2. เจ้าของอาคารชุด
  3. ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรืออาคารที่เป็นทรัพย์สินของรัฐ

ทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

  1. ทรัพย์สินสาธารณะของรัฐ
  2. ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์
  3. ทรัพย์สินของรัฐหรือของราชการที่ใช้ในกิจการของรัฐหรือของรัฐหรือในกิจการสาธารณะ
  4. สนธิสัญญาหรือความตกลงด้านภาษีอากรขององค์การสหประชาชาติหรือองค์การระหว่างประเทศอื่นที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่ต้องยกเว้นภาษีตามสนธิสัญญาหรือความตกลง
  5. ทรัพย์สินที่เป็นที่ทำการของสถานทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศบนพื้นฐานของการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
  6. ทรัพย์สินของสภากาชาดไทย
  7. ทรัพย์สินทางศาสนาของศาสนาใด ๆ ห้ามนำไปใช้เพื่อหากำไร
  8. ทรัพย์สินที่ใช้เป็นป่าช้าหรือฌาปนสถานสาธารณะโดยมิได้ทำประโยชน์ใด ๆ
  9. ทรัพย์สินที่เป็นของมูลนิธิหรือองค์การมหาชน เว้นแต่จะนำไปใช้เพื่อประโยชน์
  10. ทรัพย์สินส่วนตัวเฉพาะส่วนที่ทางราชการอนุญาตให้จัดสาธารณประโยชน์หรือทรัพย์สินส่วนตัวที่ใช้สาธารณประโยชน์เจ้าของทรัพย์สินนั้นมิได้ใช้ หรือแสวงหาผลประโยชน์ในทรัพย์สินนั้น
  11. ทรัพย์ส่วนกลางตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดซึ่งเป็นสาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยที่ดินจัดสรรที่มิได้มีจำหน่ายในเชิงพาณิชย์
  12. ทรัพย์สินตามที่พระราชกฤษฎีกากำหนด

การกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

โดยจะแบ่งอัตราตามลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้

  1. อัตราเพดานเกษตรกรรม 2% อัตราที่อยู่อาศัย 2% อัตราอื่น ๆ 2% (เช่น พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม) ร้อยละ 2, 4 ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพของที่ดิน ร้อยละ 5

อัตราพรบ ภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างที่เก็บจริงจะกำหนดดังนี้

ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการเกษตรและบ้านหลังใหญ่จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 0.5% ของมูลค่าของมัน ถ้าไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้ยกเว้นภาษีตามจริง ถ้าเกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท คิดร้อยละ 0.05 และถ้าเกิน 100 ล้านบาท คิดร้อยละ 0.10

  1. ที่ดินและอาคารที่อยู่อาศัยประเภทที่ 2 ในส่วนของผู้ที่มีที่อยู่อาศัยหลายหลัง ภาษีสำหรับที่อยู่อาศัยอื่นที่ไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลักจะถูกเรียกเก็บในอัตราดังนี้ มูลค่าทรัพย์สิน น้อยกว่า 5 ล้านบาท อัตราภาษีที่แท้จริง 0.03% มากกว่า 5 ล้าน ไม่เกิน 10 ล้าน อัตราภาษีที่แท้จริง 0.05% มากกว่า 10 ล้าน ไม่เกิน 20 ล้าน อัตราภาษีที่เก็บจริง 0.10% , มากกว่า 20 ล้าน น้อยกว่า 30 ล้าน อัตราภาษีที่แท้จริง 0.15, มากกว่า 30 ล้าน, ไม่เกิน 50 ล้าน, อัตราภาษีที่แท้จริง 0.20% และสุดท้ายตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป
  2. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประเภทอื่นที่ใช้เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนอกจากเพื่อการเกษตรและที่อยู่อาศัย อัตราภาษีที่ต้องชำระดังนี้ ทรัพย์สินมูลค่าไม่เกิน 20 ล้าน อัตราภาษีที่แท้จริง 0.3% มูลค่าทรัพย์สิน 20 ล้านแต่ไม่เกิน 50 ล้าน อัตราภาษีที่แท้จริง 0.5% ทรัพย์สินมูลค่าเกิน 50 ล้านแต่ไม่เกิน 100 ล้าน อัตราภาษีที่เก็บจริง ร้อยละ 0.7 หากทรัพย์สินมีมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ 2.5 หากทรัพย์สินมีมูลค่ามากกว่า 7,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ 2.9 และมากกว่า 10,000 ล้านบาทขึ้นไป 3 เปอร์เซ็นต์

การไปติดต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร ทำอย่างไรบ้าง

กรมที่ดิน เป็นหน่วยงานระดับกรม สังกัดกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้แก่ราษฎรและให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ รวมทั้งการจัดที่ดินสำหรับราษฎรตามประมวลกฎหมายที่ดินด้วย หากใครมาอยู่ต่างพื้นที่ ต่างจังหวัด โดยเฉพาะในเขต กทม. และยังไม่เคยใช้บริการที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการติดต่อสำนักงานที่ดิน กทม. และวิธีเตรียมตัว พร้อมแล้วไปดูรายละเอียดกันเลย

คำแนะนำเบื้องต้นในการไปติดต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร

ก่อนไปติดต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครต้องเตรียมเอกสาร รายละเอียดเอกสารและหลักฐานการติดต่อแต่ละประเภท โดยจะอยู่ในหัวข้อประเภทการติดต่อ เช่น การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์และการรังวัดแบบต่าง ๆ

ก่อนไปติดต่อสำนักงานที่ดิน ควรทราบว่า เอกสารสิทธิ์ เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ท่านอยู่ในเขตรับผิดชอบของสำนักงานที่ดินแห่งใด? และตั้งอยู่ที่ไหนเพื่อไม่ให้ไปผิดที่

เตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกรรมที่จะต้องชำระตามกฎหมายให้พร้อม

ค่าใช้จ่ายในการติดต่อราชการต้องออกใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐานทุกครั้งตามจำนวนที่จ่ายไปจริง

สำนักงานที่ดินทุกแห่งในกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เมื่อไปติดต่อที่สำนักงานที่ดิน อันดับแรก เข้าไปขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สำนักงานที่ดิน ตรวจสอบหลักฐานเอกสารและรับบัตรคิว

การให้บริการเป็นไปตามลำดับคิว

เมื่อทำงานเสร็จแล้วขอให้ตรวจสอบความสมบูรณ์ของโฉนด เช่น ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ จำนวนที่ดินในโฉนดและเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่ท่านเตรียมไว้ว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

ขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินการแต่ละประเภทจะประกาศ ณ สำนักงานที่ดิน หากเห็นว่างานล่าช้าเกินปกติหรือไม่สะดวก หากมีข้อสงสัย หรือมีข้อสงสัยประการใด โปรดสอบถาม เจ้าหน้าที่ ผู้ควบคุมงาน หัวหน้าฝ่าย หรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด แล้วแต่กรณี หากงานของท่านไม่มีปัญหาข้อขัดข้องอื่นใดจะเสร็จในเวลามาตรฐานที่ประกาศไว้

หากเกิดปัญหาไม่มีความเป็นธรรมในการให้บริการ โปรดแจ้งกรมที่ดินโดยส่งเรื่องร้องเรียนทางไปรษณียบัตรมาที่กรมที่ดิน ตู้ ปณ.11 ปณ. วัดเลียบ กรุงเทพฯ 10200 หรือโทร. 222-2837

คำแนะนำเบื้องต้นในการไปติดต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เพื่อขอทำการรังวัดที่ดินประเภทต่าง ๆ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ที่มาที่สำนักงานที่ดินเพื่อขอรังวัดที่ดินกำลังได้รับการรังวัดที่ดินทางออนไลน์  เช่นการออกโฉนดจะประสบปัญหาต่างๆ เช่น การนัดหมายรังวัดระยะยาว โดยสำนักงานที่ดินบางแห่งมีคิวนัดรังวัดเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีเศษ

ปัญหาค่ารังวัดที่ดินแต่ละสำนักงานที่ดินไม่มีมาตรฐานกำหนดเงินค่ารังวัดแล้วแต่ดุลยพินิจของผู้รังวัดเป็นผู้กำหนดราคาค่ารังวัด เช่น กรณีพื้นที่เท่ากัน สำนักงานที่ดินบางแห่งจะทำการรังวัด 2 วัน แต่บางแห่งจะทำการรังวัดเพียงวันเดียว ดังนั้นจึงได้คืนเงินมัดจำให้กับทุกฝ่ายแล้ว อย่างไรก็ตาม การสำรวจยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้เกิดปัญหาตามมา นั้นคือประชาชนผู้มาติดต่อรังวัดจะเสียค่ามัดจำเพิ่ม ทั้งที่เรื่องรังวัดยังไม่แล้วเสร็จ โดยบางรายอาจจะต้องเสียเงินมัดจำถึงจำนวน 2-3 ครั้ง ทำให้ประชาชนผู้มาติดต่อต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก

กรมที่ดินได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยมุ่งหวังว่าจะก่อให้เกิดผลดีด้านต่าง ๆ หลายประการดังนี้

  1. เพื่อแก้ปัญหางานค้างของช่างรังวัดและลดเวลานัดรังวัด
  2. เพื่อแก้ปัญหาอัตรากำลังของช่างสำรวจไม่เพียงพอต่อปริมาณงาน
  3. สร้างขวัญและกำลังใจแก่ช่างสำรวจที่ปฏิบัติงาน
  4. เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มารังวัดให้ได้รับบริการที่รวดเร็ว สะดวกมากขึ้นในราคาย่อมเยาซึ่งจะทำให้ประชาชนพึงพอใจในบริการ

การกำหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดินในลักษณะเหมาจ่าย เป็นหนึ่งในหลายแนวทางที่กรมที่ดินใช้ในการแก้ไขปัญหา เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการสำรวจเดิมมีหลักเกณฑ์ให้คิดค่าใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและให้เบิกตามที่จ่ายจริงโดยยึดตามอัตราที่ทางราชการกำหนด แต่ค่าใช้จ่ายที่คำนวณแบบเหมาจ่ายจะมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. เพื่อให้ประชาชนชำระค่าสำรวจเพียงครั้งเดียว ในกรณีการสำรวจใดที่ช่างรังวัดไปทำการสำรวจแล้วแต่ยังไม่เสร็จจะไม่มีการเบิกจ่าย
  2. เพื่อกำหนดจำนวนวันทำการรังวัด การคำนวณค่าใช้จ่ายในการรังวัดจะเหมือนกับการกำหนดจำนวนวันรังวัดและค่าใช้จ่ายในการรังวัดเดิม สำนักงานที่ดินบางแห่งได้กำหนดไว้สูงเกินความจำเป็น กรมที่ดินจึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา
  3. เพื่อให้จำนวนวันสำรวจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดราคาค่ารังวัด เช่น กรณีที่พื้นที่ของสำนักรังวัดมีเนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ ให้ทำการรังวัดได้ 1 วัน ตามหนังสือกรมการ บก.0706/ว30708 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2540 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสำรวจ เช่นในส่วนของค่าขนส่งจังหวัดจะตั้งคณะกรรมการกำหนดอัตราค่าขนส่งสูงสุดไม่เกินวันละ 800 บาท ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดินหรือสำรวจหรือตรวจสอบพื้นที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ พ.ศ. 2542 โดยให้สำนักงานที่ดินเป็นผู้กำหนดค่าใช้จ่ายในแต่ละพื้นที่ แล้วจัดทำบัญชีกำหนดจำนวนเงินค่ารังวัดและประกาศให้สาธารณชนทราบ ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 07067/ว 01082 ลงวันที่ 14 มกราคม 2541 เรื่อง การป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบเกี่ยวกับการรังวัดที่ดินรายบุคคล สำนักงานที่ดินจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่กระทรวงประกาศกำหนดไม่ได้ เช่น ประกาศกรุงเทพมหานคร ประกาศจังหวัดสุโขทัย ประกาศ จังหวัดนราธิวาส เป็นต้น

ตำแหน่งที่ดิน วิธีดูตำแหน่งแบบออนไลน์ การ “ระวางที่ดิน” คืออะไร

ระวางที่ดิน คือ เลขที่ระบุตำแหน่งที่ดิน เพื่อแสดงว่าที่ดินในโฉนดนี้อยู่ในแผนที่ใด ใช้สำหรับตรวจสอบที่ดินกับกรมที่ดิน ในส่วนของระวางที่ดินได้ระบุแนวเขตไว้ชัดเจน ระบุทางเข้า ทางออก และพื้นดินใกล้เคียง ระวางที่ดินจึงเป็นประโยชน์ในการซื้อขายที่ดิน ดังนั้นผู้ที่จะซื้อขายที่ดินจะต้องใช้เลขที่โฉนดที่ดินเพื่อตรวจสอบราคาประเมินก่อน

เว็บไซต์กรมที่ดิน เผยแพร่ข้อมูลการทำระวางที่ดิน ในส่วนของการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน สรุปได้ว่างานที่ดินมีมาตั้งแต่อดีต แต่การออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ มีขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 และเมื่อมาถึงรัชกาลที่ 4 มีการขายฝาก จำนำ ไร่นา ที่ดิน ตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน พ.ศ. 2451 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เอกสารที่ดินตามกฎหมายฉบับเดียวกันเพื่อแสดงสิทธิในที่ดินแปลงต่าง ๆ สืบมา

ข้อมูลที่ต้องเตรียมเพื่อค้นหาที่ตำแหน่งของที่ดิน

การค้นหาตำแหน่งที่ดิน มีหลายวิธีที่คุณสามารถค้นหาได้ด้วยตัวเอง และข้อมูลพื้นฐานที่ต้องเตรียมก่อนค้นหาที่ดิน ได้แก่

1. โฉนดที่ดิน

ต้องมีการตรวจสอบโฉนดที่ดิน ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์และสามารถซื้อขายได้ตามกฎหมาย เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.3ก หรือ น.ส.4 เป็นต้น ถ้าโฉนดที่ดินแสดงกรรมสิทธิ์เฉพาะที่ทำกินเท่านั้น เช่น สปพ. ซื้อขายไม่ได้ เพราะไม่ถือเป็นเอกสารที่แสดงกรรมสิทธิ์ของเจ้าของโฉนดโดยสมบูรณ์

2. ตรวจสอบข้อมูลหน้า โฉนดที่ดิน

วิธีตรวจสอบข้อมูลที่ดินบนโฉนดที่ดิน สามารถตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ได้ที่เว็บไซต์กรมที่ดินโดยต้องนำเลขที่ที่ดิน ขนาดที่ดิน ตำบล อำเภอ จังหวัด คุณจะทราบขนาดพื้นที่ ชื่อเจ้าของ และรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้

3. ขนาดที่ดิน

ควรตรวจสอบขนาดที่แท้จริงของที่ดินว่ามีขนาดตรงกับที่แจ้งขายหรือไม่ สามารถให้ผู้เชี่ยวชาญจากกรมที่ดินมาวัดพื้นที่ให้หรือดาวน์โหลดแอพลิชัน MapMeasure มาใช้ก็สามารถประมวลผลขนาดพื้นที่ได้

4. ตรวจสอบประเภทที่ดิน

ต้องตรวจสอบประเภทของที่ดินอย่างละเอียดด้วยว่าเป็นที่ดินตาบอดหรือไม่ หรือเป็นที่ดินสาธารณอยู่ในเขตสงวนหรืออยู่ในเขตอุทยานหรือเปล่า เพราะในโฉนดที่ดินจะไม่มีรายละเอียดในส่วนนี้เลย ถ้าซื้อไปแล้วจะเกิดปัญหาตามมาได้

5. ตรวจสอบข้อมูลที่กรมที่ดิน

การค้นหาที่ดินที่กรมที่ดินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่าง และเพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะมีการซื้อขายกันเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ว่าที่ดินแปลงนั้นมีปัญหาอะไรหรือไม่ ข้อมูลโฉนดและพื้นที่จริงตรงกันหรือไม่

6. ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของที่ดิน

ควรตรวจดูสภาพแวดล้อมของที่ดินนั้นว่าเหมาะแก่การทำธุรกิจ สร้างบ้าน ทำการเกษตร หรือเหมาะทำธุรกรรมใด ๆ เพราะหากซื้อที่ดินไปใช้ผิดประเภทจะทำให้เสียเวลาและเสียเงินอีกด้วย

วิธีหาตำแหน่งที่ดินจากเลขโฉนด

การตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของที่ดินในสมัยก่อนสามารถตรวจสอบได้หลายอย่าง เช่นการตรวจสอบโฉนดที่ดิน ตำแหน่งแปลงที่ดินหรือรายละเอียดเพิ่มเติมของที่ดินซึ่งสามารถทำได้ยาก เพราะเราต้องไปที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งอยู่ในบังคับบัญชาของกรมที่ดินโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากที่ดินที่ตนเองถือครองนั้นไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่อยู่อาศัย เราต้องเดินทางไปดำเนินการที่สำนักงานที่ดินในจังหวัดนั้น ๆ

เราสามารถค้นหาข้อมูลที่ดิน ค้นหาตำแหน่งที่ดินทั่วประเทศได้ฟรี เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Lands Maps (แลนด์ส แมปส์) ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลที่ดินได้ด้วย หากท่านมีต้นฉบับหรือสำเนาโฉนดแต่ไม่ทราบว่าที่ดินแปลงไหนหรือมีลักษณะทางกายภาพอย่างไร วันนี้เราจะมาสอนวิธีง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอนเพื่อค้นหาตำแหน่งที่ดินจากเลขที่โฉนดผ่านแอพพลิเคชั่น LandsMaps ผ่านมือถือ

การใช้แอปพลิเคชัน LandsMaps ง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอนดังนี้

  • ขั้นตอนที่ 1 ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น LandMapper (แลนด์แมปเปอร์) ลงมือถือก่อน หลังจากนั้นให้สมัครใช้งานแอพพลิเคชั่นก่อนถึงจะใช้งานได้
  • ขั้นตอนที่ 2 คลิกที่สัญลักษณ์รูปแว่นขยายเพื่อเลือกจังหวัด อำเภอ และเลขที่โฉนดของที่ดินที่เราต้องการทราบ
  • ขั้นตอนที่ 3 หลังจากนั้นจะมีแผนที่และตำแหน่งของที่ดินแปลงที่เราค้นหา ซึ่งจะมีข้อมูลในรูปแบบแปลงที่ดิน ตำแหน่ง (เลขที่ห้องโดยสาร เลขที่ที่ดิน เลขที่โฉนดที่ดิน หน้าสำรวจ ตำบล/แขวง-จังหวัด) เนื้อที่ (ไร่ งาน ตารางวา) สภาพของที่ดิน พื้นที่ที่เห็นจากภาพถ่ายดาวเทียมและมุมมองบนถนน (Street View) พิกัดสำนักงานที่ดิน ราคาประเมิน โฉนดที่ดิน ข้อมูลการเดินทางไปสำนักงานที่ดินที่รับผิดชอบโฉนดที่ดิน หมายเลขโทรศัพท์ พิกัดแปลง ค่าธรรมเนียม ภาษีอากร ค่าใช้จ่ายในการสำรวจ เวลารอสำรวจ (คิวรังวัด) การใช้พื้นที่ตามผังเมืองรวมทั่วประเทศและผังเมืองรวมกทม.ทั่วประเทศ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทราบตำแหน่งที่ดินที่คุณต้องการทราบแล้ว ง่าย ๆ ด้วยมือถือของตัวเอง

หากต้องซื้อขายที่ดินอย่าลืมตรวจสอบตำแหน่งที่ดินจากระวางที่ดินให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้ทราบตำแหน่งทางเข้าที่แน่นอน เพราะที่ดินเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการดำรงชีวิตของเรา ดังนั้นหากเราจะซื้อที่ดินต้องตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าที่ดินที่เราจะซื้อนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และเป็นที่ดินที่มีทางเข้าออกสะดวกสบายหรือไม่เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา เพราะเวลาเราสร้างหรือทำอะไรจะได้เข้าออกสะดวก อีกทั้งการซื้อที่ดินผ่านกรมที่ดินเขาจะคอยดูแลเราอย่างดีในเรื่องของการซื้อขายที่ดิน และการโอนกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ หากเราทำถูกต้องตามกฎหมาย เราจะไม่เสียเปรียบอย่างแน่นอน เพราะกรมที่ดินจะมีข้อมูลของที่ดินที่เราจะซื้อเพียงเรามีโฉนดไปยื่นให้กับกรมที่ดินเท่านั้น แล้วทางเจ้าหน้าที่เขาจะจัดการให้เราเอง เราเพียงแค่รอเซ็นชื่อรับที่ดินที่เราจะซื้อเท่านั่นเอง

เช็คโฉนดที่ดินออนไลน์ รวมวิธีตรวจสอบ ทำเองได้ ไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง

การตรวจสอบหรือเช็คข้อมูลที่ดินในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบโฉนดที่ดิน ที่ตั้งแปลงที่ดิน หรือรายละเอียดเพิ่มเติมของที่ดินทำได้ยาก เพราะเราต้องเดินทางไปที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับบริหารงานของกรมที่ดินโดยตรง เพื่อขอข้อมูลหรือรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินที่ตนครอบครอง โดยเฉพาะหากที่ดินที่ตนครอบครองไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่อาศัยอยู่ เราก็ต้องเดินทางไปที่สำนักงานที่ดินในจังหวัดนั้นเพื่อดำเนินการ ซึ่งปัจจุบันการเช็คโฉนดที่ดินออนไลน์สามารถทำได้เองง่าย ๆ โดยมีขั้นตอนดังนี้

วิธีเช็คโฉนดที่ดินแบบออนไลน์ในปัจจุบัน

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน หลาย ๆ อย่างกลายเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด ทั้งนี้รวมถึงการตรวจสอบโฉนดที่ดิน เพราะสามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันทีทั้งบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาและแท็บเล็ต เรียกได้เพียงปลายนิ้วก็สามารถเช็คโฉนดที่ดินออนไลน์ได้ทันที วันนี้เราขอพาทุกท่านมาดูวิธีการตรวจสอบโฉนดที่ดินออนไลน์ที่สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะต้องการตรวจสอบโฉนดที่ดินผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสามารถคลิกดูแต่ละส่วนได้ง่าย ๆ แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่าเอกสารแต่ละใบที่เราถืออยู่ในมือมีอะไรบ้าง และเอาไว้ใช้ทำอะไรกันรวมถึงข้อมูลที่มีอยู่ในเอกสารเหล่านี้ ที่เราต้องใช้เพื่อตรวจสอบโฉนดที่ดินออนไลน์

โฉนดที่ดิน

การตรวจสอบโฉนดที่ดินจะขาดสิ่งสำคัญอย่าง โฉนดที่ดินไม่ได้เลย เพราะเป็นหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ออกโดยกรมที่ดินตามประมวลกฎหมาย ผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดิน เมื่อมีโฉนดที่ดินแล้วคุณจะมีสิทธิในที่ดินนั้นโดยสมบูรณ์รวมทั้งสามารถใช้ที่ดินแปลงนั้นเพื่อการต่าง ๆ ได้ตามกฎหมาย

รายละเอียดเกี่ยวกับโฉนดที่ดินที่สำคัญ

ก่อนเข้าสู่ส่วนตรวจสอบโฉนดที่ดินออนไลน์ ขอพาทุกท่าน ไปดูข้อมูลบนโฉนดกันสักนิด เพื่อดูว่าส่วนใดเป็นส่วนสำคัญของเอกสารนี้

ตำแหน่งและเลขโฉนดที่ดิน

ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของโฉนด เป็นการระบุตำแหน่งที่ดิน ประกอบด้วย เลขที่ดิน เลขที่ที่ดิน หน้าสำรวจ ตำบล อำเภอ และจังหวัด ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดการและค้นหาที่ดินได้ง่ายขึ้น (กรณีตรวจสอบโฉนดที่ดินโดยตรงกับสำนักงานที่ดินหรือกรมที่ดิน)

ชื่อเจ้าของคนแรกของโฉนดที่ดิน

แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ ชื่อของเจ้าของที่ดินคนแรกจะยังคงเหมือนเดิมเสมอ ในการระบุเจ้าของปัจจุบัน จำเป็นต้องมีเอกสารการซื้อที่ดินเพิ่มเติม

รายละเอียดที่ดิน

เป็นส่วนของตัวเลขรายละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น ๆ เช่น พื้นที่ (ไร่-งาน-ตารางวา) ใจกลางโฉนดคือรูปแปลงที่ดิน พร้อมทั้งบอกมาตราส่วนที่ใช้วัดที่ดินแปลงดังกล่าว

ข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบโฉนดที่ดินออนไลน์

การเช็คโฉนดที่ดินออนไลน์รวมถึงการค้นหาที่ดินตำแหน่งที่ดินและเลขที่ระวาง ข้อมูลนี้ยังรวมถึงตำแหน่งที่ดิน หมายเลขระวาง และตำแหน่งที่ดิน หากคุณมีทั้งสามข้อนี้ คุณสามารถเริ่มขั้นตอนแรกได้ ข้อมูลดังกล่าวได้แก่

  • จังหวัดที่ที่ดินตั้งอยู่
  • อำเภอที่แปลงที่ดินนั้นตั้งอยู่
  • เลขที่โฉนดของแปลงที่ดินนั้น

ขั้นตอนการเช็คโฉลดที่ดินออนไลน์

การเช็คโฉนดที่ดินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมที่ดิน

หากใครไม่สะดวกเดินทางไปตรวจสอบโฉนดที่ดินที่กรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมที่ดิน ได้เปิดให้บริการสืบค้นข้อมูลแปลงที่ดิน และตรวจสอบรายละเอียดที่ดินผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ http://dolwms.dol.go.th/tvwebp/

ระบบดังกล่าวสะดวกมาก เพราะเรารู้ทันทีว่าที่ดินที่เราต้องการจะตรวจสอบอยู่ตรงไหน รวมทั้งสามารถดูสภาพแวดล้อมของแปลงที่ดินผ่านการใช้งาน Google Street View บนเว็บไซต์ได้ทันทีสารธยายสรรพคุณกันมาขนาดนี้ เรามาดูขั้นตอนการใช้งานอย่างรายละเอียดกันดีกว่า

  • ไปที่เว็บไซต์ http://dolwms.dol.go.th/tvwebp/
  • ที่ด้านบนของเว็บไซต์ เลือกจังหวัด เขต/อำเภอ และกรอกเลขที่โฉนดที่ดิน จากนั้นกด “ค้นหาข้อมูล”
  • สามารถกดปุ่มปักหมุดบนแปลงที่ดินเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น ๆ
  • สามารถกดปุ่มเปิด-ปิดผังเมืองเพื่อดูว่าที่ดินของเราอยู่ในเขตผังเมืองแบบใด
  • กดปุ่ม “เปิด/ปิด Street View” เพื่อดูพื้นที่โดยรอบของแปลงในรูปแบบ Street View (มุมมองบนถนน)

การตรวจสอบโฉนดที่ดินออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน LandsMaps

อีกหนึ่งความสะดวกสบายที่ทำให้การตรวจสอบโฉนดที่ดินออนไลน์เป็นเรื่องง่าย เราสามารถตรวจสอบที่ดินของเราผ่านแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า LandsMaps ได้ทันที ขั้นตอนการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน รองรับทั้ง iOS และ Android อีกด้วย คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย

  • กดเข้าสมัครสมาชิก หากไม่เคยสมัครสมาชิก ให้คลิกที่ปุ่ม “สมัครสมาชิก” (หากเคยสมัครสมาชิกแล้ว ให้ข้ามไปข้อ 5)
  • กรอกข้อมูลให้ละเอียดและครบถ้วน จากนั้นคลิก “สมัครสมาชิก”
  • โดยกรอกเบอร์มือถือเพื่อรับ OTP เพื่อยืนยันตัวตน
  • Login เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน
  • กดปุ่มแว่นขยายที่มุมขวาบนของแอพพลิเคชั่น เลือกจังหวัด เขต/อำเภอ ของที่ดิน และกรอกเลขที่แปลงที่ดิน จากนั้นกด “ค้นหา”
  • กดปุ่มปักหมุดบนแปลงที่ดินเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น

นอกจากนี้ LandsMaps ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ พร้อมแปลงที่ดิน Street View หรือค้นหาสำนักงานที่ดินจังหวัด เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานในเรื่องของความเร็วได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้หนึ่งในความสะดวกของแอปพลิเคชั่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Google Map บนโทรศัพท์มือถือเพื่อนำทางไปยังที่ดินแปลงนั้น ๆ ไดทันทีเช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีตรวจสอบโฉนดที่ดินออนไลน์ที่ใครก็ทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินจังหวัด สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรับข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่พวกเขาถือครองอย่างรวดเร็ว หรือต้องการตรวจสอบลักษณะของที่ดินก่อนตัดสินใจซื้อขายเพื่อง่ายต่อการซื้อขายนั่นเอง